
“เพิ่มมิติให้ใบหน้าโดดเด่นจนถึงขีดสุด”
ศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิคปิด
Closed Rhinoplasty
Closed Rhinoplasty
การผ่าตัดเสริมจมูกเทคนิคปิดคืออะไร?
การศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิคปิด หรือ Closed Rhinoplasty ศัลยแพทย์จะทำการกรีดเปิดช่องเล็กๆ ภายในรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อทำการเสริมซิลิโคนเข้าไป
ศัลยแพทย์จะเลือกซิลิโคนให้เหมาะกับฐานและเนื้อจมูก เหลาซิลิโคนให้เหมาะกับฐานจมูกลแะทำการเสริมโดยวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อให้ซิลิโคนยึดเกาะกับโครงสร้างจมูก ดูเป็นเนื้อเดียวกับจมูกไม่ลอยและไม่เป็นแท่ง ลดโอกาสการเบี้ยว เอียง ของซิลิโคน ที่สำคัญคือ รอยแผลจะถูกซ่อนอยู่ภายในรูจมูก ทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่โครงสร้างจมูกเดิมดีอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีปัญหาของจมูกมากนัก เช่น จมูกไม่ได้สั้นเกินไป ปลายจมูกไม่ได้ใหญ่มาก กระดูกฮัมพ์ไม่ได้สูงมาก ก็สามารถเสริมจมูกเทคนิค (Closed Rhinoplasty) ได้ ในการผ่าตัดหากคนไข้มีผิวปลายจมูกบาง ก็อาจจะมีการเสริมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังหู หรือ เนื้อเยื่อเทียม เพิ่มเติมให้ปลายหนามากขึ้น ป้องกันปลายจมูกบางหรือจมูกทะลุได้ในอนาคต
วัสดุหลักในการเสริมจมูกเทคนิค (Closed Rhinoplasty) แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
1.วัสดุสังเคราะห์
ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่ขึ้นรูปทรงไว้แล้ว มีขนาดความกว้างและ
ความยาวที่แตกต่างกัน สะดวกต่อการใช้งานแพทย์จะทำการตกแต่งซิลิโคนออก
เล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนไข้แต่ละบุคคล โดยโรงพยาบาลวรรณสิริ จะใช้ซิลิโคนเกรดพรีเมียมจากอเมริกา (USA Silicone) เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ เนื้อซิลิโคนเนียนละเอียด มีสีขาว นิ่มปานกลาง คุณภาพดี และมีความปลอดภัยสูง
ซิลิโคนจมูกแบบเหลาหรือแบบแท่ง เป็นซิลิโคนที่ผลิตมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยม แพทย์จะต้องนำมาเหลาให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับรูปจมูกคนมากที่สุด สามารถแบ่ง ออกเป็น 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อนแข็ง คือ Hard (แข็ง) Medium (แข็งปานกลาง) Soft
(นุ่ม) และ Utra Soft (นุ่มมาก) เนื้อเยื่อเทียม มีลักษณะเป็นแผ่นนิ่มๆคล้ายฟองน้ำ ไขว้กันไปมา เช่นเดียวกับ โครงสร้างผิวหนังของเรา ทำให้เซลล์มีการเจริญเติบโตของเส้นประสาท เส้นเลือด และคอลลาเจน เพื่อป้องกันการทะลุ ทำให้ปลายยาวขึ้น
เพราะจมูก เป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า แค่การเปลี่ยนรูปทรงจมูกเพียงเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลให้ใบหน้าของคุณดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และด้วยเอกลักษณ์บนใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับรูปทรงจมูกแบบเดียวกัน
การศัลยกรรมจมูกศัลยแพทย์จะทำการประเมิณและออกแบบรูปทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้าองค์รวมทั้งหมด เพื่อผลลัพธ์จมูกที่อสวยงาม เข้ากับใบหน้า และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นในแบบที่เป็นตัวคุณได้อย่างดีด้วยการศัลยกรรมจมูกเทคนิคปิด (Closed Rhinoplasty)
เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู ดียังไง ปลอดภัยไหม?
เป็นการผ่าตัดเสริมซิลิโคนบริเวณสันจมูก และรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนได้มาจากตัวคนไข้เอง ไม่เกิดอาการแพ้ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการทะลุหลังเสริมจมูก และทำให้ปลายจมูกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการตัดกระดูกอ่อนมาส่วนนึง เป็นชิ้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ส่งผลต่อรูปทรงของใบหู และโครงสร้างใบหู สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่แค่คนไข้จะมีแผล 2 ที่ในการเสริมจมูกครั้งนี้ คือแผลที่ทำการเสริมจมูกและแผลที่หลังใบหู
การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม คืออะไร ต่างจากกระดูกอ่อนหลังหูไหม?
การผ่าตัดเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม คือนำเนื้อเยื่อเทียมมาปรับแต่งปลายจมูกเพื่อความเป็นธรรมชาติและสวยงาม ป้องกันการทะลุและปลายบางในอนาคต ก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ข้อดีคือไม่ต้องเจ็บตัวหลายที่เหมือนการเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู โดยมีจุดประสงค์ใช้แทนเนื้อเยื่ออ่อนของมนุษย์เอง จึงไม่มีอาการแพ้ใดๆ
การตอกฐานเสริมจมูก คืออะไร เหมาะกับใคร?
การตอกฐานจมูก จะช่วยปรับทรงจมูกให้เรียวเล็กเข้ารูป ศัลยแพทย์จะทำการทุบกระดูกแกนจมูกให้แคบลงโดยอาศัยการทำให้กระดูกเคลื่อนจากฐานก่อนแล้วจึงบีบให้แคบเข้ามา หรือตอกตัดฐานจมูกที่โด่งนูนเกินไป เหมาะกับคนที่สันจมูกกว้าง ฐานจมูกใหญ่ สามารถทำได้ทั้งแบบปิดหรือเปิดบาดแผล ขึ้นอยู่กับโครงสร้างจมูกเดิมของแต่ละคน
เสริมจมูกตะไบฮัมพ์ คืออะไร เทคนิคนี้จำเป็นไหม?
ฮัมพ์ คือ กระดูกที่นูนออกมาตรงกลางจมูกเรา แต่ใช่ว่าทุกคนจะมี สังเกตง่ายๆเวลาหันด้านข้าง กระดูกฮัมพ์จะโค้ง โก่งขึ้นมา มีผลตอนจะใส่ซิลิโคน จะต้องทำการตะไบฮัมพ์ออก การตะไบฮัมพ์ คือ ตะไบกระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนขึ้นมา เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนวางซิลิโคนเพื่อให้เรียบร้อย ป้องกันการเบี้ยวเอียงได้ดี ช่วยทำให้หน้าดูหวานขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีฮัมพ์เล็กไม่สูงมาก เป็นการปรับแต่งแกนจมูกเท่านั้น โดยไม่มีการเคลื่อนกระดูก
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบ (Closed Rhinoplasty)
ข้อจำกัดการเสริมจมูกแบบ Closed Rhinoplasty
ระยะเวลาที่ใช้ผ่าตัด
15-30 นาทีการให้ยาชา
ใช้ยาชาเฉพาะที่การค้างคืนที่โรงพยาบาล
ไม่ต้องค้างคืนระยะพักฟื้น
สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ 3-4 วันหลังการผ่าตัดอาการบวม
มีอาการบวมช้ำ 3-5 วันหลังการผ่าตัด รอยฟกช้ำหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ จมูกเข้าที่ภายใน 3 เดือนการติดตามผล
1 สัปดาห์ (ตัดไหม) / 1 เดือน / 3 เดือนอยู่ได้ถาวร ไม่ต้องเปลี่ยนอีกเลยตลอดชีวิต
มีโอกาสน้อย
ตำแหน่งของการวางซิลิโคนที่ไม่พอดี แพทย์ที่ทำจึงต้องคำนึงถึงการรัดตัวของซิลิโคนด้วย
สามารถทำได้
สามารถทำได้ โดยใช้วัสดุเสริมครอบในจุดบกพร่อง แต่หากอยากแก้ไขโครงสร้างจมูกอย่างถาวร แนะนำให้ทำศัลยกรรมจมูกเทคนิคโอเพ่น (Open Rhinoplasty)
สามารถทำได้ แต่ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ หรือขูดฟิลเลอร์ออกเสียก่อน แล้วเว้น 2 สัปดาห์ จึงจะกลับมาทำศัลยกรรมจมูกได้
ในช่วง 3 วันแรกหลังการผ่าตัด ไม่ควรนอนตะแคง เพราะอาจทำให้รูปทรงจมูกบิดเบี้ยวได้
ควรงดใส่แว่นประมาณ 6 เดือนหลังการผ่าตัด โดยอาจใส่คอนแทคเลนส์แทนไปก่อน